ดาวอังคารเป็นดาวเคราะห์ที่ได้รับ
ความสนใจมากที่สุด
ในบรรดาดาวเคราะห์บนฟ้าทั้งหมด เพราะเคยมีคนเชื่อว่า
มีมนุษย์อยู่บนดาวเคราะห์สีแดงดวงนี้
ดาวอังคารยังเป็นดาวเคราะห์ที่มีโอกาสเข้ามาใกล้โลกเกือบพอๆ
กับดาวศุกร์
โดยระยะใกล้ที่สุดจะอยู่ภายใน 40 ล้านกิโลเมตร
เมื่อใช้กล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่ที่มีกำลังแยกภาพสูงสุด
ส่องดาวอังคารขณะอยู่ใกล้โลกที่สุด จะเห็นรายละเอียดได้ถึง 150
กิโลเมตร
ซึ่งเทียบได้กับการเห็นริ้วรอยบนดวงจันทร์ด้วยตาเปล่า
ที่กำลังแยกภาพขนาดนี้จะไม่เห็นรายละเอียดของพื้นผิว
เช่นไม่เห็นภูเขาหรือหุบเหว หรือหลุมบ่อของดาวอังคาร
แต่จะเห็นโครงสร้างใหญ่ๆ
เช่นขั้วน้ำแข็งสีขาว
หรือริ้วรอยสีคล้ำซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลของดาวอังคาร
สาเหตุที่มีผู้เชื่อว่ามีมนุษย์อาศัยอยู่บนดาวอังคาร
เนื่องจากนักดาราศาสตร์ชาวอิตาลีชื่อ
จิโอวานนี ชิอาพาเรลลี รายงานเมื่อ พ.ศ. 2420
ว่าเขาได้ใช้กล้องโทรทรรศน์ส่งพบร่องที่เป็นเส้นตรงจำนวนมากบนพื้นผิว
และเรียกเป็นภาษาอิตาลีว่า คานาลี (canale)
ซึ่งมีความหมายตรงกับภาษาอังกฤษว่า
channel (ช่องหรือทาง) แต่คนอังกฤษเอาไปแปลว่า canal (คลอง)
อันเป็นสิ่งซึ่งต้องขุดสร้างขึ้น
ผู้ขุดสร้างคลองบนดาวอังคารจึงต้องเป็นมนุษย์ดาวอังคาร
เพื่อนำน้ำจากขั้วมายังบริเวณศูนย์สูตรสำหรับการเพาะปลูก
จุดนี้เองที่นำไปสู่การเขียนนิยายวิทยาศาสตร์
ที่ทำให้เชื่อว่ามีมนุษย์ดาวอังคาร
ซึ่งจะเดินทางมาบุกโลก
ผู้ที่สนับสนุกความคิดเรื่องมนุษย์ดาวอังคารสร้างคลองส่งน้ำเพื่อการเพาะ
ปลูก
คือ เปอร์ซิวัล โลเวลล์
นักดาราศาสตร์อเมริกันและเป็นสมาชิกของครอบครัวที่มั่งคั่งในรัฐแอริโซนา
เขาได้ทำแผนที่แสดงคลองต่างๆ บนดาวอังคาร
แต่ต่อมามีนักดาราศาสตร์ได้ใช้กล้องโทรทรรศน์ที่มีกำลังแยกภาพที่ดีกว่า
ตรวจไม่พบคลองบนดาวอังคาร แต่ชาวบ้านทั่วไปยังฝังใจเชื่ออยู่
จนกระทั่งถึงยุคอวกาศจึงปรากฏชัดว่าไม่มีคลองบนดาวอังคารแน่นอน
พื้นผิวดาวอังคารมีหลุมบ่อ หุบเหว ภูเขา และมีปล่องภูเขาไฟ
มีร่องเหมือนเป็นทางน้ำไหลมาก่อน
ดังจะได้กล่าวต่อไปในหัวข้อการสำรวจดาวอังคารโดยยานอวกาศ
ยานอวกาศลำแรกที่ประสบความสำเร็จในการ
ผ่านใกล้ดาวอังคาร
คือ ยานมารีเนอร์ 4 ของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม
พ.ศ. 2508
ภาพที่ถ่ายทอดกลับมาจำนวน 22
ภาพแสดงให้เห็นว่าพื้นผิวดาวอังคารมีหลุมและบ่อมากมาย
ยานอวกาศมารีเนอร์อีกหลายลำต่อมา
สามารถถ่ายภาพพื้นผิวรวมกันแล้วได้ครบทั่วทุกบริเวณ
โดยเห็นภาพละเอียดถึง 1 กิโลเมตร
ภาพถ่ายเหล่านี้ช่วยให้นักภูมิศาสตร์ทำแผนที่ของดาวอังคารได้ทั้งดวง
บนพื้นผิวของดาวอังคารจึงพบการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทางธรณีวิทยา
เช่น
ปล่องภูเขาไฟ
หุบเหวกว้างและลึกร่องที่เหมือนกับร่องน้ำที่เคยเป็นทางน้ำไหลมาก่อน
ยานที่สำรวจดาวอังคารต่อจากยานมารีเนอร์ คือ ยานไวกิง 2 ลำ
แต่ละลำประกอบด้วยยานลำแม่ที่เคลื่อนรอบดาวอังคาร
ในขณะที่ส่งยานลูกลงสัมผัสพื้นผิวดาวอังคาร ยานไวกิง 1
ลงที่ไครส์
พลาทิเนีย (Chryse Planitia) ซึ่งแปลว่า ที่ราบแห่งทองคำ
เมื่อวันที่
20 กรกฎาคม พ.ศ. 2519 เป็นเวลา 7 ปีหลังจากที่ นีล อาร์มสตรอง
เหยียบดวงจันทร์
ต่อจากนั้นอีก 2 เดือน ยานไวกิง 2
ก็ลงในที่ราบทางเหนือชือที่ราบยูโทเปีย
(Utopia)
ยานทั้งสองมีแขนกลยื่นออกไปตักดินบนดาวอังคารมาวิเคราะห์ภายในยาน
เพื่อค้นหาสิ่งมีชีวิต หรือซากของสิ่งมีชีวิต
แต่การวิเคราะห์ไม่ยืนยันว่ามีหรือเคยมีสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร
ต่อจากยานไวกิงคือ ยานมาร์สพาธไฟเดอร์ ที่นำรถโซเจนเนอร์ไปด้วย
ยานได้ลงบนพื้นผิวดาวอังคารเมื่อเดือนกรกฏาคม
พ.ศ. 2540 ภาพที่น่าตื่นเต้นคือการติดตามรถคันเล็กๆ
เคลื่อนที่สำรวจก้อนหินใกล้ฐานซึ่ง
ต่อมาได้รับชื่อว่า ฐานเซแกน
ภาพก้อนหินที่เรียงในทิศทางเดียวกันชี้ให้
เห็นว่าบนดาวอังคารเคยมีน้ำไหลมาก่อน ล่าสุดยานมาร์สโกลบอล
เซอร์เวเยอร์
ซึ่งกำลังเคลื่อนรอบดาวอังคารได้ส่งภาพหุบเหวที่เป็นร่องลึกหรือที่เรียกว่า
แคนยอน ซึ่งคดเคี้ยวไปมา ในอนาคตสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น
มีโครงการที่จะส่งยานอวกาศไปเก็บดินจากดาวอังคารกลับมาวิเคราะห์ในห้อง
ปฏิบัติการบนโลก
และอีกไม่นานมนุษย์จะเดินทางไปดาวอังคารเช่นเดียวกับการลงบนดวงจันทร์
เมื่อ พ.ศ. 2512
http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/phitsanulok/suwicha_p/mars.html
สำรวจดาวอังคาร
ดีมากค่ะ แต่ครูอยากให้ เพิ่มเนื้อหาและรูปภาพ และสร้าง link มากมาก ส่งภายในวันอาทิตย์นะจ๊ะ..ครูกานต์ค่ะ
ตอบลบ